การจัดอันดับอย่างเป็นทางการ บัลลงดอร์ 2025

การจัดอันดับอย่างเป็นทางการ บัลลงดอร์ 2025

Mansion Sportsไม่ว่าจะรักหรือเกลียด รางวัลบัลลงดอร์ก็ยังคงเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของนักฟุตบอลทุกคน หลังจบฤดูกาล 2024/2025 ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย สุดท้ายได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า อุสมาน เดมเบเล คือผู้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในโลกฟุตบอลไปครอง

ปีกทีมชาติฝรั่งเศสถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีมที่ดีที่สุดในยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยผลงานการยิง 35 ประตู ขณะปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ทริปเปิลแชมป์ เดมเบเลเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่างลามีน ยามาล ดาวรุ่งบาร์เซโลนาไปได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนวิตินญา มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช ผงาดขึ้นมาคว้าอันดับสามจากผลงานที่ก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง

อุสมาน เดมเบเล จุดสูงสุดในเส้นทางอาชีพ

หลังจากเส้นทางการค้าแข้งที่เต็มไปด้วยช่วงขึ้นและลง ในที่สุดเดมเบเลก็สามารถพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองได้ เขาปิดฤดูกาลด้วยสถิติ 37 ประตูและ 16 แอสซิสต์ พร้อมช่วยพาเปแอสเชกวาดถ้วยทุกรายการ รางวัลบัลลงดอร์ครั้งนี้จึงถือเป็นการยืนยันเส้นทางอันยาวนานจากดาวรุ่งผู้เต็มไปด้วยข้อกังขา จนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

ลามีน ยามาล อนาคตที่ไม่อาจปฏิเสธ

แม้จะมีอายุเพียง 18 ปี ลามีน ยามาลก็สร้างปรากฏการณ์ขึ้นในวงการฟุตบอล เขาไม่เพียงแต่เป็นปีกที่โดดเด่นให้กับบาร์เซโลนา แต่ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติสเปน ฟอร์มการเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะเกมรอบรองชนะเลิศกับอินเตอร์ มิลาน ทำให้เห็นชัดว่าเขาคือหนึ่งในพรสวรรค์ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลยุคใหม่

วิตินญา หัวใจแดนกลางของเปแอสเช

จากนักเตะที่เคยถูกมองข้าม วิตินญากลายมาเป็นศูนย์กลางเกมของปารีส แซงต์-แชร์กแมงอย่างเต็มตัว กองกลางชาวโปรตุเกสผู้นี้คือตัวเชื่อมเกมสำคัญในระบบการเล่นของหลุยส์ เอ็นริเก้ และรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอทั้งในลีกและเวทียุโรป ความสำเร็จในนามทีมชาติ โปรตุเกส ที่สามารถคว้าแชมป์เนชันส์ลีก ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก

การจัดอันดับ 30 อันดับแรก บัลลงดอร์ 2025

นอกเหนือจากสามอันดับแรกแล้ว ยังมีการประกาศรายชื่อผู้เล่น 30 คนที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดในโลกฟุตบอลฤดูกาลที่ผ่านมา ได้แก่

  1. อุสมาน เดมเบเล (PSG) – ปิดฉากเส้นทางอันยากลำบากด้วยการเป็นนักเตะที่ดีที่สุด
  2. ลามีน ยามาล (บาร์เซโลนา) – ดาวรุ่งวัย 18 ปีที่ยังคงเขียนหน้าประวัติศาสตร์
  3. วิตินญา (PSG) – แกนหลักแดนกลางของเปแอสเช โดดเด่นทั้งในสโมสรและทีมชาติ
  4. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) – กลับสู่ฟอร์มสูงสุด พาหงส์แดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  5. ราฟินญา (บาร์เซโลนา) – ตัวหลักในความสำเร็จทริปเปิลแชมป์ภายในประเทศ
  6. อัชราฟ ฮาคิมี (PSG) – แบ็กขวาที่ดีที่สุดของโลก มีส่วนทั้งเกมรุกและเกมรับ
  7. คีเลียน เอ็มบัปเป้ (เรอัล มาดริด) – ฤดูกาลแรกยังไม่เปรี้ยง แต่คุณภาพยังเหนือชั้น
  8. โคล พาล์มเมอร์ (เชลซี) – กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของทีม โดยเฉพาะในนัดชิง
  9. จานลุยจิ ดอนนารุมมา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) – ฮีโร่ของเปแอสเชใน UCL ก่อนย้ายไปซิตี้
  10. นูโน เมนเดส (PSG) – แบ็กซ้ายที่เล่นได้โดดเด่นทั้งใน UCL และทีมชาติ
  11. เปดรี (บาร์เซโลนา) – ฤดูกาลแรกที่ปราศจากอาการบาดเจ็บ โชว์ฟอร์มระดับเวิลด์คลาส
  12. ควิชา ควารัตสเคเลีย (PSG/นาโปลี) – มีส่วนสำคัญกับสองทีมแชมป์ในปีเดียว
  13. แฮร์รี เคน (บาเยิร์น มิวนิก) – ทำไป 48 ประตูและ 14 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์เสียที
  14. เดซีเร ดูเอ (PSG) – ดาวรุ่งที่แจ้งเกิดจากผลงานในนัดชิง UCL
  15. วิคตอร์ กโยเคเรส (อาร์เซนอล) – 63 ประตูในทุกรายการ ก้าวขึ้นเป็นกองหน้าความหวัง
  16. วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) – ฟอร์มโดดเด่นแต่ขาดความสม่ำเสมอ
  17. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (บาร์เซโลนา) – 44 ประตูในวัย 36 ปี ฟอร์มยังไม่โรยรา
  18. สก็อต แม็คโทมิเนย์ (นาโปลี) – จากตัวสำรองแมนยู กลายเป็นฮีโร่พานาโปลีคว้าแชมป์
  19. เชา เนเวส (PSG) – เสริมแกร่งแดนกลางในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับยุคใหม่
  20. เลาตาโร มาร์ติเนซ (อินเตอร์ มิลาน) – ยังคงสม่ำเสมอ แม้พลาดแชมป์ UCL อีกครั้ง
  21. แซร์ฮู กีราสซี (ดอร์ทมุนด์) – ยิง 38 ประตูตั้งแต่ฤดูกาลแรก
  22. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ลิเวอร์พูล) – กุญแจสำคัญในแดนกลางของทีมแชมป์ลีก
  23. จูด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด) – ผลงานโดดเด่น แต่ยังไม่สัมผัสถ้วยใหญ่
  24. ฟาเบียน รุยซ์ (PSG) – ตัวหลักแดนกลาง เล่นครบทุกนัดใน UCL
  25. เดนเซล ดุมฟรีส์ (อินเตอร์ มิลาน) – โดดเด่นใน UCL โดยเฉพาะเกมพบบาร์เซโลนา
  26. เออร์ลิง ฮาแลนด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) – 34 ประตู แต่ซิตี้ไม่เปรี้ยงเท่าที่คาด
  27. ดีแคลน ไรซ์ (อาร์เซนอล) – ฟอร์มแข็งแกร่ง แม้ทีมยังไร้ถ้วยรางวัล
  28. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล) – ยังแข็งแกร่งในวัย 34 พาทีมคว้าแชมป์ลีก
  29. ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (ลิเวอร์พูล) – ฤดูกาลสุดท้ายอันยอดเยี่ยมกับเลเวอร์คูเซนก่อนย้ายทีม
  30. ไมเคิล โอลิเซ (บาเยิร์น มิวนิก) – ปรับตัวได้ดีเยี่ยมในเยอรมนี มีส่วนร่วมถึง 43 ประตู

บัลลงดอร์ 2025 จุดเริ่มต้นของยุคใหม่

ผลลัพธ์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเรื่องราวการฟื้นคืนของอุสมาน เดมเบเล แต่ยังเป็นสัญญาณว่าฟุตบอลโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ดาวรุ่งอย่างลามีน ยามาล เริ่มท้าทายการครองบัลลังก์ของบรรดานักเตะชื่อดังที่เคยยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดมานาน

Related News

การจัดอันดับอย่างเป็นทางการ บัลลงดอร์ 2025

การจัดอันดับอย่างเป็นทางการ บัลลงดอร์ 2025

Mansion Sportsไม่ว่าจะรักหรือเกลียด รางวัลบัลลงดอร์ก็ยังคงเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของนักฟุตบอลทุกคน หลังจบฤดูกาล 2024/2025 ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย สุดท้ายได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า อุสมาน เดมเบเล คือผู้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในโลกฟุตบอลไปครอง

ปีกทีมชาติฝรั่งเศสถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีมที่ดีที่สุดในยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยผลงานการยิง 35 ประตู ขณะปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ทริปเปิลแชมป์ เดมเบเลเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่างลามีน ยามาล ดาวรุ่งบาร์เซโลนาไปได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนวิตินญา มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมเปแอสเช ผงาดขึ้นมาคว้าอันดับสามจากผลงานที่ก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง

อุสมาน เดมเบเล จุดสูงสุดในเส้นทางอาชีพ

หลังจากเส้นทางการค้าแข้งที่เต็มไปด้วยช่วงขึ้นและลง ในที่สุดเดมเบเลก็สามารถพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองได้ เขาปิดฤดูกาลด้วยสถิติ 37 ประตูและ 16 แอสซิสต์ พร้อมช่วยพาเปแอสเชกวาดถ้วยทุกรายการ รางวัลบัลลงดอร์ครั้งนี้จึงถือเป็นการยืนยันเส้นทางอันยาวนานจากดาวรุ่งผู้เต็มไปด้วยข้อกังขา จนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

ลามีน ยามาล อนาคตที่ไม่อาจปฏิเสธ

แม้จะมีอายุเพียง 18 ปี ลามีน ยามาลก็สร้างปรากฏการณ์ขึ้นในวงการฟุตบอล เขาไม่เพียงแต่เป็นปีกที่โดดเด่นให้กับบาร์เซโลนา แต่ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติสเปน ฟอร์มการเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะเกมรอบรองชนะเลิศกับอินเตอร์ มิลาน ทำให้เห็นชัดว่าเขาคือหนึ่งในพรสวรรค์ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลยุคใหม่

วิตินญา หัวใจแดนกลางของเปแอสเช

จากนักเตะที่เคยถูกมองข้าม วิตินญากลายมาเป็นศูนย์กลางเกมของปารีส แซงต์-แชร์กแมงอย่างเต็มตัว กองกลางชาวโปรตุเกสผู้นี้คือตัวเชื่อมเกมสำคัญในระบบการเล่นของหลุยส์ เอ็นริเก้ และรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอทั้งในลีกและเวทียุโรป ความสำเร็จในนามทีมชาติ โปรตุเกส ที่สามารถคว้าแชมป์เนชันส์ลีก ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก

การจัดอันดับ 30 อันดับแรก บัลลงดอร์ 2025

นอกเหนือจากสามอันดับแรกแล้ว ยังมีการประกาศรายชื่อผู้เล่น 30 คนที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดในโลกฟุตบอลฤดูกาลที่ผ่านมา ได้แก่

  1. อุสมาน เดมเบเล (PSG) – ปิดฉากเส้นทางอันยากลำบากด้วยการเป็นนักเตะที่ดีที่สุด
  2. ลามีน ยามาล (บาร์เซโลนา) – ดาวรุ่งวัย 18 ปีที่ยังคงเขียนหน้าประวัติศาสตร์
  3. วิตินญา (PSG) – แกนหลักแดนกลางของเปแอสเช โดดเด่นทั้งในสโมสรและทีมชาติ
  4. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) – กลับสู่ฟอร์มสูงสุด พาหงส์แดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  5. ราฟินญา (บาร์เซโลนา) – ตัวหลักในความสำเร็จทริปเปิลแชมป์ภายในประเทศ
  6. อัชราฟ ฮาคิมี (PSG) – แบ็กขวาที่ดีที่สุดของโลก มีส่วนทั้งเกมรุกและเกมรับ
  7. คีเลียน เอ็มบัปเป้ (เรอัล มาดริด) – ฤดูกาลแรกยังไม่เปรี้ยง แต่คุณภาพยังเหนือชั้น
  8. โคล พาล์มเมอร์ (เชลซี) – กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของทีม โดยเฉพาะในนัดชิง
  9. จานลุยจิ ดอนนารุมมา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) – ฮีโร่ของเปแอสเชใน UCL ก่อนย้ายไปซิตี้
  10. นูโน เมนเดส (PSG) – แบ็กซ้ายที่เล่นได้โดดเด่นทั้งใน UCL และทีมชาติ
  11. เปดรี (บาร์เซโลนา) – ฤดูกาลแรกที่ปราศจากอาการบาดเจ็บ โชว์ฟอร์มระดับเวิลด์คลาส
  12. ควิชา ควารัตสเคเลีย (PSG/นาโปลี) – มีส่วนสำคัญกับสองทีมแชมป์ในปีเดียว
  13. แฮร์รี เคน (บาเยิร์น มิวนิก) – ทำไป 48 ประตูและ 14 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์เสียที
  14. เดซีเร ดูเอ (PSG) – ดาวรุ่งที่แจ้งเกิดจากผลงานในนัดชิง UCL
  15. วิคตอร์ กโยเคเรส (อาร์เซนอล) – 63 ประตูในทุกรายการ ก้าวขึ้นเป็นกองหน้าความหวัง
  16. วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) – ฟอร์มโดดเด่นแต่ขาดความสม่ำเสมอ
  17. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (บาร์เซโลนา) – 44 ประตูในวัย 36 ปี ฟอร์มยังไม่โรยรา
  18. สก็อต แม็คโทมิเนย์ (นาโปลี) – จากตัวสำรองแมนยู กลายเป็นฮีโร่พานาโปลีคว้าแชมป์
  19. เชา เนเวส (PSG) – เสริมแกร่งแดนกลางในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับยุคใหม่
  20. เลาตาโร มาร์ติเนซ (อินเตอร์ มิลาน) – ยังคงสม่ำเสมอ แม้พลาดแชมป์ UCL อีกครั้ง
  21. แซร์ฮู กีราสซี (ดอร์ทมุนด์) – ยิง 38 ประตูตั้งแต่ฤดูกาลแรก
  22. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ลิเวอร์พูล) – กุญแจสำคัญในแดนกลางของทีมแชมป์ลีก
  23. จูด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด) – ผลงานโดดเด่น แต่ยังไม่สัมผัสถ้วยใหญ่
  24. ฟาเบียน รุยซ์ (PSG) – ตัวหลักแดนกลาง เล่นครบทุกนัดใน UCL
  25. เดนเซล ดุมฟรีส์ (อินเตอร์ มิลาน) – โดดเด่นใน UCL โดยเฉพาะเกมพบบาร์เซโลนา
  26. เออร์ลิง ฮาแลนด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) – 34 ประตู แต่ซิตี้ไม่เปรี้ยงเท่าที่คาด
  27. ดีแคลน ไรซ์ (อาร์เซนอล) – ฟอร์มแข็งแกร่ง แม้ทีมยังไร้ถ้วยรางวัล
  28. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล) – ยังแข็งแกร่งในวัย 34 พาทีมคว้าแชมป์ลีก
  29. ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (ลิเวอร์พูล) – ฤดูกาลสุดท้ายอันยอดเยี่ยมกับเลเวอร์คูเซนก่อนย้ายทีม
  30. ไมเคิล โอลิเซ (บาเยิร์น มิวนิก) – ปรับตัวได้ดีเยี่ยมในเยอรมนี มีส่วนร่วมถึง 43 ประตู

บัลลงดอร์ 2025 จุดเริ่มต้นของยุคใหม่

ผลลัพธ์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเรื่องราวการฟื้นคืนของอุสมาน เดมเบเล แต่ยังเป็นสัญญาณว่าฟุตบอลโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ดาวรุ่งอย่างลามีน ยามาล เริ่มท้าทายการครองบัลลังก์ของบรรดานักเตะชื่อดังที่เคยยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดมานาน

Related News